คืนละ 240,000!? ห้องพักที่ดีที่สุด ของโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok

Waldorf Astoria Bangkok ถือเป็นหนึ่งในโรงแรมระดับห้าดาวที่อยู่ในตัวเมืองกรุงเทพฯ ที่มีความหรูหราและอัตลักษณ์เฉพาะตัว แต่ด้วยราคาห้องพักที่สูงมาก หลายคนอาจจะมองว่าไม่เหมาะสมกับงบประมาณของพวกเขา ในบทความนี้เราจะพาคุณไปพบกับห้องพักแบบสุดหรูที่โรงแรม Waldorf Astoria Bangkok และเรียนรู้ว่าทำไมราคาของห้องพักที่แพงมากนั้นน่าจะเป็นมูลค่าที่น่าสนใจที่สุดในการเข้าพักในโรงแรมระดับห้าดาวของเมืองไทย

โรงแรม Waldorf Astoria Bangkok: ภูมิปัญญาแห่งการเข้าพักแบบหรูหรา

โรงแรม Waldorf Astoria Bangkok ตั้งอยู่บนถนน ราชดำเนินกลางเมืองกรุงเทพฯ และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอาคารผสมผสาน ที่ประกอบด้วยโรงแรม ออฟฟิศ และร้านค้าหรูหรา โดดเด่นด้วยอากาศบ้านเรือนหรูหรา ที่ผสมผสานความละเอียดอ่อนและดีไซน์ที่ได้รับความนิยมในสมัยก่อน ในทุกห้องพักของโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok ก็ได้ประดับไปด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอื่นๆ ที่สวยงามและให้ความรู้สึกสบายตา

ห้องพักแบบสุดหรูที่ Waldorf Astoria Bangkok

ห้องพักที่สุดหรูของโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok คือห้องพักแบบไอ้หนุ่มสาว (Presidential Suite) ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยถึง 252 ตารางเมตร ซึ่งแบ่งออกเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องอาหาร ห้องน้ำ และห้องแม่บ้าน ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาอย่างดีเยี่ยม เพื่อให้คุณสามารถพักผ่อนและสัมผัสความหรูหราอย่างเต็มที่ได้

ห้องพักนี้มีราคาที่สูงมาก ถึงแม้จะเป็นห้องพักที่แพงที่สุดในโรงแรมนี้ แต่ก็มีลูกค้าที่เข้ามาพักห้องนี้เป็นประจำ เพราะห้องพักแบบนี้มีความสะดวกสบายและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่เหมือนใคร

สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่พร้อมให้บริการ

โรงแรม Waldorf Astoria Bangkok มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและครบวงจร ที่จะทำให้คุณรู้สึกสะดวกสบายและเป็นกันเองในระหว่างการเข้าพัก ทั้งการบริการด้านอาหาร เครื่องดื่ม สปา ฟิตเนส ห้องประชุม และบริการอื่นๆ ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีบริการรถรับส่งสนามบินแบบพรีเมียร์ และเครื่องดื่มและขนมอาหารว่างที่พร้อมให้บริการตลอดวัน

ความหรูหราและคุ้มค่าของห้องพัก

ราคาของห้องพักแบบไอ้หนุ่มสาว (Presidential Suite) ในโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok สูงถึง 240,000 บาทต่อคืน ซึ่งนับเป็นราคาที่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาของโรงแรมอื่นๆ ในตัวเมืองกรุงเทพฯ แต่ถึงแม้ราคาจะสูงมาก แต่ห้องพักแบบนี้จะมีความหรูหราและอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าสนใจที่สุดในเมืองไทย

คุณจะได้รับความสะดวกสบายและความหรูหราที่เต็มรูปแบบในห้องพักแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวกระจกขนาดใหญ่ ระเบียงที่มีวิวที่สวยงาม ห้องนั่งเล่นที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้คุณสามารถพักผ่อนและรับประทานอาหารได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีห้องนอนที่มีเตียงขนาดใหญ่พร้อมที่นอนที่มีความนุ่มนวลและอุปกรณ์การนอนที่มีคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นหมอน ผ้าห่ม และผ้าปูที่นอนที่อุดมไปด้วยความนุ่มนวลและสะดวกสบาย

สรุป

โรงแรม Waldorf Astoria Bangkok เป็นโรงแรมระดับห้าดาวที่มีความหรูหราและอัตลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยความละเอียดอ่อนและการออกแบบที่สวยงาม ห้องพักแบบสุดหรูของโรงแรมนี้

มีความสะดวกสบายและคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาของห้องพัก แม้ราคาของห้องพักแบบไอ้หนุ่มสาว (Presidential Suite) จะสูงมาก แต่ก็มีลูกค้าที่เข้ามาพักห้องนี้เป็นประจำ เพราะห้องพักแบบนี้มีคุณภาพและความหรูหราอย่างเต็มที่ และให้ความสะดวกสบายตลอดการเข้าพัก

คำถามที่พบบ่อย

ราคาของห้องพักแบบไอ้หนุ่มสาว (Presidential Suite) ในโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok เท่าไหร่?

ราคาของห้องพักแบบนี้สูงถึง 240,000 บาทต่อคืน

มีบริการอะไรบ้างในห้องพักแบบไอ้หนุ่มสาว (Presidential Suite) ของโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok?

ห้องพักแบบนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบวงจร รวมถึงห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องอาหาร ห้องน้ำ และห้องแม่บ้าน ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาอย่างดีเยี่ยม เพื่อให้คุณสามารถพักผ่อนและสัมผัสความหรูหราอย่างเต็มที่ได้

มีบริการอะไรบ้างในโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok?

โรงแรม Waldorf Astoria Bangkok มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบวงจร รวมถึงการบริการด้านอาหาร เครื่องดื่ม สปา ฟิตเนส ห้องประชุม และบริการอื่นๆ ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีบริการรถรับส่งสนา

โรงแรม Waldorf Astoria Bangkok ตั้งอยู่ที่ไหน?

โรงแรม Waldorf Astoria Bangkok ตั้งอยู่ที่ถนนราชดำเนินกลาง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

มีแพ็กเกจพักผ่อนใดบ้างที่มีราคาที่คุ้มค่าในโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok?

โรงแรม Waldorf Astoria Bangkok มีแพ็กเกจพักผ่อนหลายรูปแบบ ทั้งพักผ่อนสำหรับครอบครัว ซึ่งมีเด็กเข้าพักได้ฟรี และพักผ่อนสำหรับคู่รัก โดยแพ็กเกจทั้งหมดนี้มีราคาที่คุ้มค่าและมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบวงจร

คืนละ 240,000!? ห้องพักที่ดีที่สุด ของโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok [VIDEO]

  #BoomTharis #WaldorfAstoria #WaldorfAstoriaBangkok
โรงแรมนี้คือ Waldorf Astoria Bangkok ครับ เป็นแบรนด์โรงแรมที่สูงที่สุดในเครือโรงแรม Hilton

ในเครือ Hilton มีโรงแรมอยู่มากมายประมาณ 6000 กว่าแห่งทั่วโลก แต่มีโรงแรมเพียงแค่ประมาณ 30 กว่าแห่งเท่านั้น ที่ใช้แบรนด์ Waldorf Astoria ซึ่งสำหรับ Hilton แล้ว นี่คือโรงแรมที่ให้ประสบการณ์ระดับสูงสุดเท่าที่ Hilton จะมอบให้ได้

ห้องพักที่ดีที่สุดของที่ Waldorf Astoria Bangkok นี้ คือห้อง Royal Suite พื้นที่ 355 ตารางเมตร ซึ่งมีราคาต่อคืนสูงถึง 240,000++ บาท! เราจะไปดูรายละเอียดของโรงแรมนี้ และห้องที่ดีที่สุดของที่นี่กัน!

– โปรโมชั่นห้องพัก:  https://bit.ly/3hndB0L
– เว็บไซต์ Waldorf Astoria: https://bit.ly/2EtU4NS

** ขอขอบคุณ Shopback ที่สนับสนุนคลิปนี้นะครับ **
ShopBack ช้อป กิน เที่ยว ได้เงินคืน – ซื้อของ จองโรงแรม ซื้อตั๋วเครื่องบิน ประกัน สั่งอาหาร ในร้านค้าออนไลน์  เช่น Lazada Shopee Agoda Booking.com Trip.com Foodpanda และอีกกว่าร้อยร้านค้า รับเงินคืนสูงสุด 65%

– ดาวน์โหลด Shopback ได้ที่: https://app.shopback.com/boomtharis

#BoomTharis #WaldorfAstoria #WaldorfAstoriaBangkok

0:00 Intro
0:54 Lower Lobby
1:20 Upper Lobby
1:42 Design & Style
2:54 Facilities
3:56 Spa
5:32 Sponsored Message
7:36 Rooms & Suites
9:00 Living Room
11:42 Counter Bar
12:06 In-Room Home Theater
12:49 Bedroom
13:01 Work Space
13:22 Master Bedroom
14:02 Master Bathroom
14:44 Sky Restaurant & Bars
15:00 Bull & Bear Restaurant
15:54 The Golden Staircase
16:18 ‘The Loft’ Sky Bar
17:23 The Champagne Bar
18:37 Breakfast & Conclusion

FOLLOW ME
on: https://www.facebook.com/BoomTharis/
on: https://www.instagram.com/boomtharis/
on: https://twitter.com/boomtharis/

เนื้อหาของวิดีโอ คืนละ 240,000!? ห้องพักที่ดีที่สุด ของโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok

โรงแรมที่เราอยู่ตอนนี้นะทุกคนคือโรงแรมวอลดอร์ฟCaptionแบงค์คอกนะครับซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรมที่สูงที่สุดของเครือโรงแรมฮิลตันทั่วโลกนี้นั้นคน Hilton มีโรงแรมอยู่ประมาณ 6000 กว่าแต่มีเพียงแค่ 30 โรงแรมเท่านั้นนะครับที่จะสามารถใช้แบรนด์ WarZซึ่งที่กรุงเทพฯเนี่ยแห่งแรกของสวิสซึ่งเปิดตัวมาในห้องพักที่เราอยู่ตอนนี้เป็นห้องรอยัลเป็นห้องพักรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแพงที่สุดของโรงแรมนี้นะราคาต่อคืนอยู่ที่240000 บาท + + นะครับทุกคนในวันนี้ผมจะพามาดูรายละเอียดอย่างนี้แล้วก็มาดูว่าห้องนี้จุดแรกที่เราเดินเข้ามานะทุกคนตรงนี้จะเป็นส่วนของล็อบบี้โรงแรมเวลาแขกโรงแรมมาเนี่ยเขาจะมาจอดส่งรับส่งกันตรงนี้นะครับแล้วเอาของลงอะไรนะเดินเข้ามาปุ๊บก็จะมีพนักงานเปิดประตูต้อนรับมีแล้วก็จะมีแบบพนักงานที่เขาเดินมาต้อนรับเราอยู่จุดที่เราอยู่ตรงนี้เขาเรียกว่า Lower Lobbyนะครับสาเหตุที่เรียกว่า Lower Lobby เพราะว่าเขามี Upper Lobby ด้วยนะครับเวลาแขกเดินเข้ามาในพื้นที่ข้างล่างตรงนี้จะไม่ได้ใช้เขาจะมีรีบอยู่ตัวนึงนะครับซึ่งตัวนี้กดขึ้นไปปุ๊บจะไปสู่ที่ชั้นล็อบบี้ Lobby ข้างบนเนี่ยจะเป็นชั้นรีเซฟชั่นที่แท้จริงของตัวโรงแรมแต่เนื่องจากช่วง covid ตรงตอนนี้ชนะ personsครับเขาก็เลยใช้พื้นที่ตรงรู้ล็อบบี้ตรงนี้ในการต้อนรับส่วน Design การออกแบบของที่นี่นะครับทุกคนเขาจะใช้ interior Designer ที่ชื่อว่าคุณ Uncleเขาเป็นดีไซเนอร์ชาวฮ่องกงเขามีบริษัทออกแบบด้วยนะครับชื่อ aso นะครับเป็นบริษัทที่มีฝากผลงานไว้ทั่วโลกมากมายสไตล์การตกแต่งสำหรับที่เขาเลือกให้กลับ waldorf astoria กรุงเทพฯจะเป็นแนว contemporary เป็นหลักแต่ว่าเขาก็จะมีแบบเอาความโมเดิร์นไทยเข้ามาผสมด้วยอย่างเช่นแบบนี้เพราะอะไรต่างๆที่มันแบบมีความเป็นไทยนิดๆนะครับแล้วสิ่งที่เราจะเห็นที่นี่เยอะมากคือหินอ่อนแล้วก็จะมีพวกเส้นที่มันเป็นบาสนะครับหรือว่าเป็นทองสัมฤทธิ์หน้าตามันจะเป็นสีประมาณนี้นะครับทุกคนมันจะเข้มกว่าพวกทองเหลืองนิดนึงมันจะดูแบบขู่กว่าควบคุมไฟที่เขาชอบใช้จะเป็นโคมไฟทรงแบบทรงกระบอกแบบนี้นะครับอันนี้ที่ผมจับอยู่เนี่ยมันจะเป็นผ้าไหมนะทุกคนซึ่งเป็น Detail ที่เจ๋งมากๆสปายของที่นี่มันจะไม่ถึงกับ luxury จนอึดอัดเขาบอกว่าเขาจะเรียกว่ามันเป็น Comfort luxคือคนทั่วไปเดินเข้ามาก็ยังรู้สึกผ่อนคลายรู้สึกสบายอยู่แต่ยังไม่ทิ้งความหรูหราส่วนผสมหลักๆของตัวโรงแรมเนี่ยเขาจะตั้งอยู่ที่ชั้น 16 นะครับข้างหลังผมเนี่ยก็คือจะเป็นตัวสระว่ายน้ำนั้นเองอยากจะพูดเรื่อง Design นิดนึงนะครับคือตัวตึกแมกโนเลียราชดำริบูเลอวาร์ดที่โรงแรมนี้ตั้งอยู่เนี่ยInspiration การออกแบบของตึกนี้มันเป็นดอกแมกโนเลียนะครับคือเขาทำตึกนี้ให้เป็นรูปดอกไปโดนเลียแล้วจุดที่เรายืนอยู่เนี่ยมันเหมือนกับเป็นกลีบดอกกลีบนึงที่กำลังยื่นออกไปซึ่งมันก็กลายมาเป็นตัว Structure ที่มาแบบถุงตัวสระว่ายน้ำอันนี้เอาไว้นะครับเป็นสีขาวแบบนี้สวยงามมากๆนะอีกอย่างหนึ่งที่อยากจะให้ดูคือวิวนะครับวิวที่เราจะได้ตรงนี้จะเป็นวิวของ Royal Bangkok Sports Club หรือว่า ibsc นั้นเองก็จะเป็นสปอร์ตคลับใจกลางเมืองเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ซึ่งก็มีโรงแรมอยู่ไม่ขี้หรอกพี่จะอยู่ตรงนี้แล้วได้วิวนี้อีกอย่างนึงเดี๋ยวจะให้ดูนะทุกคนคือบางคนจะสงสัยว่านี่คืออะไรนะฮะอันนี้จริงๆคือที่อาบน้ำที่ล้างตัวก่อนลงสนามลองเปิดให้ดูอ้าวแล้วจะเป็นแบบนี้จะมีดีไซน์นิดนึงทุกคนนอกจากตัวสระว่ายน้ำนะครับทุกคนที่ชั้น 16 นี้ยังจะมีแฟชั่นอื่นๆโรงแรมด้วยนะครับอ่านหนังสือห้องฟิตเนสคนที่มาพักแต่ง R15สำคัญมากๆอยากจะพาไปดูมากคือสปาของเล่นเนี่ยเขาตกแต่งมาแบบจัดเต็มมากๆทุกคนก่อนที่เราจะเดินเข้าไปยังตัวสปาหน่อยทุกคนเราจะเดินผ่านซึ่งผมอยากจะให้ดู Lightingการจัด writing ที่เรียนพิเศษมากนี่คือเชิงเทียนซึ่งตอนช่วงเย็นๆเขาจะจุดเทียนหอมไว้ตรงนี้นะคะเจ๊นันแค่นี้เขาจะมีใส่หลอดไฟข้างล่างกับข้างบนด้วยนะครับเพื่อส่องให้มันเกิดไปปิ้งเตะที่มันแบบพิเศษไม่เหมือนที่อื่นแล้วก็ทำแบบนี้ส่วนผนังด้านข้างตรงนี้ดูผิวเผินๆจะเป็นเหมือนกันหนังธรรมดาเบิ้ลระยะทางหนังขึ้นมาให้มันเป็นดีไซน์กับกลีบดอกไม้แล้วมีซ่อนไฟไว้ข้างล่างข้างบนด้วยไปลืมตลอดทางเลยรูปแบบเพื่อนๆนอกจากนั้นเนี่ยตัวห้องสปาที่เป็นห้องเหม็นเลยหรือว่าพวกห้องน้ำต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอะไรเขาก็ใส่ใจในเรื่องของซึ่งทั้งหมดเขาจะไม่ทำแต่ว่าอันนี้มันเหมือนกันเป็นการปรับโหมดปรับอารมณ์เธอจะได้รับก่อนที่จะเข้าไปดูในห้องนะครับขอพูดถึงสปอนเซอร์ของคลิปนี้ก่อนนะครับนั่นก็คือชอบ Back นั่นเองครับช็อปแม็คนะคะก็จะเป็น Application ที่จะให้เงินคืนกับคนที่ใช้บริการซื้อของ shopping onlineLINE กับร้านค้าออนไลน์ต่างๆมากมายที่เป็นพันธมิตรกับ Shop Back นะครับอย่างเช่น LazadaShopeeTrip.com Agoda booking.com นะครับหรือไม่ว่าจะเป็นบริการสั่งอาหารอย่างฟู้ดแพนด้าหรือ Grab Food ก็มีอยู่ในช็อปแม็คเช่นเดียวกันนะครับซึ่งจะมีร้านค้าต่างๆมากมายกว่า 100 ร้านค้าเลยทีเดียววิธีการใช้งาน Application นะครับก่อนอื่นนะครับเราจะต้องมี App ชาร์จแบตก่อนนะครับแล้วก็ทำการสมัคร account ให้เรียบร้อยนะครับรับสมัครผ่าน Email หรือ Facebook ก็ได้นะครับเมื่อเข้าไปแล้วเนี่ยมันก็จะขึ้นหน้าจอแบบนี้นะครับหลังจากนั้นเราจะต้องเลือกหมวดหมู่ที่เราต้องการจะซื้อของนะครับอย่างเช่นเราอยากจะจองโรงแรมนะครับเราก็เลือกหมวดหมู่ท่องเที่ยวนะครับแล้วอาจจะจองห้องผ่าน booking.com แล้วกดที่ booking.com นะครับ App Shop Back ก็จะลิงค์ไปที่ booking.com เลยนะครับแล้วก็จะทำการจองโรงแรมตามปกติเหมือนอยู่ใน Bookingหลังจากยืนยันการจองแล้วนะครับแล้วก็จะรอรับเงินคืนนะครับแต่เว็บไซต์นี้ก็ใช้เวลาไม่เท่ากันแต่ตัว App เนี่ยจะแสดงผลเป็นเงินคืนสะสมเข้าไปที่ account ของเรานะครับจองผ่าน booking.com เนี่ยเราจะได้เงินคืนสูงสุดถึง 60 เปอร์เซ็นต์เลยนะครับใช้ได้กับทุกโรงแรมนะครับไม่ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมถูกหรือแพงแม้แต่ waldorf astoria แห่งนี้ก็สามารถจองผ่านช็อปแบ็คได้เช่นเดียวกันดูวิธีการได้เงินคืนนะครับเมื่อเราได้เงินคืนอนุมัติครบขั้นต่ำ 150 บาทเราก็สามารถโอนเงินจำนวนนี้เข้าสู่บัญชีธนาคารของเราได้นะครับบางคนอาจจะสงสัยนะว่าชอบแบงค์เอาเงินมาคืนจากชอบแบบนี้เขาจะเป็น Partner กับร้านค้าออนไลน์มากมายนะครับซึ่งร้านค้าเหล่านี้ก็จะให้ค่าคอมมิชชั่นกับชอปแบคแบงค์ก็จะเก็บไว้เองส่วนนึงนะครับแล้วเอาส่วนใหญ่เนี่ยให้เป็นเงินคืนกับUser ของApp App นี้เป็น App ที่ช่วยให้คุณออมเงินได้โดยที่คุณจับจ่ายใช้สอยใช้บริการร้านค้าออนไลน์ต่างๆเหมือนปกติเลยนะครับต้องขอขอบคุณครับแบ็คนะที่สนับสนุนคิดในวันนี้ขอบคุณมากครับเราเดินเข้ามาในห้องกันแล้วนะฮะห้องพักของโรงแรมนี้นะครับจะตั้งอยู่ที่ชั้น 635บางคนอาจจะสงสัยว่าโหตึกโรงแรมต้องสูง 50-6010 ชั้นทำไมมีโรงแรมอยู่แค่นี้เองมันจะเป็นของคอนโดมิเนียมนะทุกคนเป็นคอนโด magnolias ราชดำริซึ่งผมก็เคยมาเดินเล่นที่นี่ทำคลิปไปแล้วหลายคลิปนะครับเดี๋ยวผมจะแปะไว้ดูแล้วกันตัวห้องพักของโรงแรมนี้มันมีอยู่แค่ 1707 ห้องเท่านั้นโดยห้องรอยัลสวีทที่เราอยู่กันตอนนี้มีอยู่เพียงแค่ห้องเดียวผมขอพูดถึงห้องทั่วไปของเราราคาต่อคืนเริ่มต้นที่ประมาณนั้นคืนละหมื่นนึงในช่วงเวลาปกตินะที่ไม่มีโปรโมชั่นแปลว่ามันจะมีห้องรองท็อปด้วยนะครับห้องรองท็อปเนี่ยคือห้อง atelier Suitesกับ warfarinWarZ แนวจะเป็นห้อง Two Bedroomราคาต่อคืนอยู่ประมาณสักคืนละ 3 หมื่นกว่าบาท200 ตารางเมตรซึ่งถือว่าใหญ่มากกลับอีกห้องหนึ่งห้อง assisจะเป็นห้อง One Bedroom150 ตารางเมตรราคาต่อคืนอยู่ที่ประมาณก็คืนละ 2 หมื่นกว่าแพงเหมือนกันสำหรับห้อง One Bedroom แต่ห้องรอยัลสวีทเหมือนเอา 2 ห้องนี้มารวมกันคือจะเป็น 355 ตารางเมตรราคาต่อคืน200เวลาเราเข้ามาในห้องนี้นะคะPart แรกสุดที่ผมอยากจะให้ดูตรงนี้ก่อนเลยคือพื้นที่ของ Living area ที่เราอยู่กันพื้นที่ตรงนี้มันจะเป็นพื้นที่แบบขนาดใหญ่มากๆเลยส่วนของ Living area เป็นพื้นที่นั่งเล่นอยู่ตรงตรงกลางนะครับผมทางนู้นจะเป็นพวกโต๊ะรับประทานของบาร์เครื่องดื่มรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันสิ่งที่อยากจะให้สังเกตอย่างแรกคือเขาจะใส่เป็นผนังกระจกรอบด้านเลยนะคะครับแล้วจะ Take View ได้ 180ทางด้านขวามือของผมเนี่ยจะเป็นฝั่งของวิวเซ็นทรัลเวิลด์ส่วนทางซ้ายมือเนี่ยจะเป็นวิวของรอยัลสไปรท์ส่วนการตกแต่งภายในห้องนี้นะทุกคนพ่นสีหลักๆที่เขาจะชอบใช้เนี่ยจะมีอยู่ด้วยกันหลายสีเหมือนกันแต่ที่ผมสังเกตได้นะครับจะประกอบไปด้วยขาวฟ้าIberryสีบรอนซ์แล้วก็สีน้ำตาลเข้มสีขาวก็อย่างที่ทุกคนเห็นชัดเจนที่สุดนะครับแต่สีอื่นเช่นสีฟ้าเนี่ยท็อปโต๊ะหินเนี่ยดูเหมือนๆใกล้ๆอาจจะเทานะแต่นี่อันนี้มันจะอมฟ้านิดนึงผมก็เสียสีฟ้านะครับหมอนWarmingพวกวอลเปเปอร์ที่ใช้แบบผ้าไหมสีฟ้านะครับจะมีอยู่เต็มห้องนี้เลยส่วนสี Ivory งาช้างก็อาจจะสังเกตได้จากพวกเฟอร์นิเจอร์ต่างๆถังนะครับผ้าที่ใช้บุเฟอร์นิเจอร์เก้าอี้โซฟาสีบรอนซ์ก็จะอยู่ตรงนี้นะฮะผนังที่เป็นลายฉลุนะครับอันนี้เป็นโลหะฉลุนะทุกคนเป็นสองแผ่นประกบติดกันสวยงามมากๆอันนี้มันจะเหมือนกับต่อเนื่องมาจากภายนอกของตัวโรงแรมเข้ามาสู่อีกอย่างหนึ่งก็คือพวกวัสดุที่เป็นไม้เนี่ยเขาจะเลือกใช้ไม้สีเข้มขาโต๊ะขาเก้าอี้กำแพงหรือว่าพวกไม้ที่ไว้กรุผนังอะไรต่างๆใช้ไม้สีเข้มเป็นหลักรวมถึงพื้นด้วยนะท่านควรสังเกตนะครับห้องนี้เป็นห้องครูเบสนะครับแต่คือโต๊ะเยอะมากแล้วพี่เยอะมากนั่งรวมกันแบบ340 คนห้องนี้ยังสามารถทำได้เลยเพราะว่าเขาเผื่อไว้ว่าเวลาเรามีแขกในห้องนี้นะครับมีพื้นที่สำหรับบางทีเรามากันเป็นกลุ่มมาเป็นเพื่อนแก๊งนึงนะเราอาจจะมีห้องนี้ห้องนึงจองไว้ 1 ห้องคนอื่นก็ไม่อยู่ห้องอื่นห้องธรรมดาแล้วก็มารวมตัวกันห้องนี้ก็ได้เขาจะมีบริการ Private Chefอาหารให้ที่ห้องด้วยนะครับขึ้นอยู่กับว่าเราจะ Request แบบไหนเราจะเอาแบบเป็นไลฟ์วิวเป็นอาหารมื้อง่ายๆธรรมดาธรรมดาก็ได้นะครับหรือว่าจะให้เขาจัดเต็มทั้งโต๊ะอาหารอันนี้เลยก็สามารถซึ่งนอกเหนือจากอาหารภายในห้องอ่ะเขาจะมีพนักงานหนึ่งคนนะครับเรียกว่า personsที่เขาจะมาคอยบริการเราตั้งแต่ก่อนที่เราจะมาถึงที่นี่ไปจนถึงกระทั่งเรากลับบ้านไปแล้วนะตลอด 24 ชั่วโมงเลยเราอยากได้อะไรต้องการสามารถรีเควสจากนั้นนะครับในห้องนี้ยังมีส่วนตัวด้วยนะทุกคนสิ่งที่อยากจะให้ดูก็คือตัวบานเนี้ยเขาทำอย่างหินอ่อนทั้งอันเลยนะครับเป็นเคาน์เตอร์หินอ่อนยาวตลอดแนวขึ้นไปจนถึงผนังด้านหลังตกแต่งก็สวยงามมากแล้วก็เราสามารถแบบจัดปาร์ตี้แล้วเราก็เชิญบาร์เทนเดอร์ขึ้นมาเตรียมเครื่องดื่มอะไรให้ตรงนี้ได้เลยซึ่งเขาก็จะมีมุมจากห้อง Living area ขนาดใหญ่ไอ้นั่นแล้วนะทุกคนภายในยูนิตนี้ยังมีห้องดูหนังส่วนตัวด้วยนะครับผมเพิ่งออกเนี่ยมันจะเป็นห้องโฮมเธียเตอร์นะครับมีโซฟาอยู่นะแล้วก็นั่งดูหนังตรงนี้ตัวลำโพงที่เขาติดมาหน่อยทุกคนเป็นของของยี่ห้อแบงค์Illusionคือมีทีวีตัวนึงนะมีลำโพงซ้ายขวา 2 ด้านมีด้านหลังอีก 2 อันแล้วก็ยังมีซับวูฟเฟอร์อีกอันนึงด้วยคือเป็นเปียโนชุดใหญ่เลยอ่ะทุกคนราคานี้ผมว่าน่าจะต้องมีเป็นล้านนะครับแค่เฉพาะค่าเครื่องเสียงอย่างเดียวนะสาเหตุที่เขาใช้เลือกใช้ลำโพงตัวนี้คือตัวหน้ากากลำโพงมันจะเป็นไม้นะทุกคนแล้วเขาจะมีการซ่อนสายไฟที่แบบสวยที่ห้องรอยัลสวีทนี้นะครับทุกคนมันจะเป็นห้อง Two Bedroomก็คือมีห้องนอน 2 ห้องนะครับห้องนึงก็จะเป็นห้องนอนเล็กก็จะแบบมีปุ่มฟังก์ชันใช้งานได้ตามปกติทั่วไปนะครับแต่ที่ไม่ปกติคือห้องมีครับห้อง Master Bedroomเดินเข้ามาปุ๊บเนี่ยเราจะเจอกับโต๊ะทำงานก่อนนะครับอันนี้จะเป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่นะฮะใหญ่ขนาดแบบเราสามารถมา set up ออฟฟิศชั่วคราวกับตรงนี้ได้เลยคนที่มาพักห้องนี้บางทีจะต้องมีการคุยงานคุย Business กันนิดนึงหรือว่าแบบต้องเปิดคอมเช็คอีเมลอะไรต่างๆเขาจะมีพื้นที่เตรียมไว้สำหรับหน้าที่นั้นโดยเฉพาะเฉพาะนะครับเดินทางเข้ามานะครับก็จะเป็นส่วนของเตียงนอนเตียงเนี่ย function มันไม่ได้มีอะไรมากหรอกทุกคนมันก็แค่เป็นแบบเตียงเอาไว้นอนเฉยใต้เตียงมีแบบโซฟาเล็กๆสำหรับไว้นั่งดูวิวนิดหน่อยคือที่เนี่ยเขาไม่ได้ให้เรานอนดูทีวีนะทุกคนที่ถูกหลบมุมไปที่มุมเสาของห้องแต่ว่าเวลาเราตื่นมานะครับเปิดม่านปุ๊บเราจะพบกับครับก็เป็นหนึ่งSignature Viewอีกอย่างที่อยากจะให้ดูคือตัว H บอร์ดตรงนี้ข้างหลังวัสดุจะเป็นผ้าไหมเขาจะทำเป็นลายปักด้วยนะถึงจะสวยสวยงามมากๆแล้วข้างหลังของเที่ยงนี้จะเป็น walk in closetที่โรงแรมแห่งนี้นะครับไม่ว่าห้องจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหนทุกห้องจะต้องมี Walkพัดเข้ามาข้างในนะครับจะเป็นส่วนของห้องน้ำนะครับห้องน้ำที่แม่จะให้มาแบบครบทุกอย่างนอกจาก walk in closet แล้วทุกห้องก็จะมีอ่างอาบน้ำเช่นเดียวกันอันนี้จะเป็นของแบรนด์เราฟ้องเป็นหินสังเคราะห์ใหญ่มากๆมีอ่างล้างหน้า Hit and herนะครับเป็นหินอ่อนหมดเลยนะครับช่างฝั่งนี้ก็จะมี shower Box ด้วยนะครับแต่ที่พิเศษกว่าที่อื่นๆเลยนะครับคือห้องนี้จะเป็นห้องอบไอน้ำส่วนตัวไฮไลท์ยูนิคอร์นตัวเองนะครับแทบจะไม่มีโรงแรมไหนเลยนะที่มีห้องสตรีมส่วนตัวอยู่ภายในยูนิคอันนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่พิเศษOk ครับต่อมานะคะเราจะขึ้นมาที่ฉัน55 56 57 นะครับ3 ชนิดจะเป็น84 ที่เป็นไฮไลท์ที่สุดของตึกนี้ก็ว่าได้นะครับตั้งอยู่ที่ 3 ชั้นบนสุดสามชั้นนะจะเป็นร้านอาหารแล้วเป็น Sky Bar นะครับขอภาพดูร้านนี้ก่อนหน้านี้มีชื่อว่าร้าน Blue and Bearตัวร้านอาหาร Blue and Bear ที่เราอยู่ตรงนี้มันจะเป็นร้านอาหารสเต็กเฮ้าส์นะครับเป็นพวกGrill เป็นพวกซีฟู้ดนะครับหรือว่าเป็นพวก slow cookครับร้านนี้จะเป็นร้านอาหารร้านเดียวกันร้าน Blue and Bear ที่ตั้งอยู่ที่วอลดอร์ฟCaption New Yorkสาเหตุที่เขาชื่อ Blue and Bearเพราะว่าตัวละเนี่ยมันตั้งอยู่ใกล้ๆกับตลาดหุ้นซึ่งBlue and Bear ก็หมายถึงนักลงทุนแบบ disbandedที่มีคาแรคเตอร์ที่ไม่เหมือนกันการตกแต่งภายในร้านเนี่ยจะเป็นสีทองแล้วเขาก็จะมีโซนที่เป็น Barจะเป็นร้านอาหารแล้วก็โดยปกติร้านนี้เขาจะเปิดเฉพาะช่วงเย็นแล้วก็จะมีโซนที่เป็น Private dining ด้วยซึ่งเป็นส่วนตัวที่แบบสระมองเห็นวิวรอบๆซึ่งวิวธงชาติหลังจากเราทานอาหารเสร็จนะครับเราจะขึ้นไปบาร์ข้างบนในการเดินขึ้นชั้นบนนะฮะเราก็จะเดินขึ้นบันไดกันที่นี่จริงก็มีลิฟท์นะครับแต่ว่าแขกที่มาเนี่ยเขามักจะไม่ค่อยขึ้นลิฟท์กันนะครับเพราะว่าบันไดที่นี่มันตัวบันไดเนี่ยเขาจะตกแต่งด้วยแผ่น Gold leafทองคำเปลวเอามาปิดผิวตัวบันไดตั้งแต่ชั้นล่างขึ้นไปถึงข้างบนเลยเป็นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เป็น signature ของที่นี่มากๆแขกที่มาทานอาหารข้างบนหน่อยก็ชอบมาถ่ายรูปตรงนี้นะครับส่วนชั้น 56 นะว่าจะเป็นห้องThe Loft นะทุกคนThe Rockโดยปกติคันนี้เขาจะเปิดเฉพาะช่วงตอนเย็นนะครับให้คนแบบหลังจากกินข้าวเสร็จขึ้นมาจิบเครื่องดื่มอะไรแบบนี้นะฮะแต่ว่าตอนนี้เนื่องจากอาการโควิดว่าจะเปิดช่วงตอนกลางวันด้วยนะAfternoon Tea ข้างบนได้ข้างบนเนี่ยมันจะมีพื้นที่นั่งน่ารักๆเต็มไปหมดเลยแล้วก็จะมีมุมที่แบบขึ้นมานั่งชมวิวไปด้วยได้สไตล์การตกแต่งของห้องนี้สีมันจะสว่างสว่างขึ้นมาเมื่อเทียบกับอีกห้องหนึ่ง inspiration ของเขาคืออาทิตย์ศิลปินเนี่ยสังเกตจัดโต๊ะนี้นะก็จะมีเป็นเหมือนกับแบบโต๊ะไม้ที่เพ้นท์สีเอาไว้พวกเดินเข้ามาข้างหน้าเดี๋ยวจะมีพวกภาพเขียนภาพวาดต่างๆที่ดีไซเนอร์เขาเป็นคนไปเลือกมาศิลปินที่นิวยอร์กพ่นสีที่เขาชอบใช้เนี่ยจะออกแนวแบบสีชมพูชมพูหน่อยครับคืนนี้จะเป็นหินอ่อนสีชมพูผนังอะไรต่างๆที่มีประดับด้วยพวกCopper สีออกทองแดงทองแดงนิดๆขึ้นมาชั้นบนสุดทุกคนฉันมีปัญหาฉัน 50เอารถขึ้นมาเนี่ยเราจะไม่เจอทางเข้าร้านนะคะอันนั้นคือห้องน้ำแต่ทางเข้าร้านเนี่ยที่อยู่ตรงนี้ครับแล้วประตูร้านก็จะเปิดออกห้องนี้เป็นมารับหน้าที่มีชื่อว่าChampagne Barนะครับเวลาเราเดินเข้ามาปุ๊บแล้วจะเจอกับโถงทางเดินตรงนี้ก่อนเหมือนแบบมีความลึกลับซับซ้อนนิดหน่อยนะฮะพอเราเดินเข้ามาข้างในนะทุกคนฉันนี้จะเป็นบาปอีกแห่งหนึ่งด้วยความที่เราชื่อแชมเปญบาร์กันแน่นอนรับการจัดวางที่นั่งการตกแต่งของฉันเนี่ยมันจะดูหรูหราขึ้นมาอีกจะมีการเน้นสีทองเพิ่มเข้ามามากขึ้นพื้นที่ตรงนี้ถ้าสังเกต 1 โต๊ะจะนั่งกันได้จำนวนคนเยอะกว่านะครับเพราะว่าห้องนี้เขาดีไซน์ไว้ว่าเผื่อเราจะปิดเป็นไพรเวทParty สามารถจัดงานอีเว้นท์เล็กๆตรงนี้ได้หรือว่าบางทีก็จะมีคู่รักขึ้นมาขอแต่งงานกันข้างบนอะไรแบบแบบนี้ทั้งคืนที่บรรยากาศมันก็จะได้อีกฟิวนึงซึ่งน่ารักมากๆ Private มากๆโอเคอรุณสวัสดิ์ครับทุกคนตอนนี้หลังจากที่เรานอนพักอยู่ที่โรงแรมคืนนึงนะครับแล้วก็ตื่นมาทานอาหารเช้านะฮะโดยปกติอาหารเช้าของวอลดอร์ฟแอสโทเรียที่ชั้น 10ซึ่งจะเป็นห้องอาหารเดอะบราสเซอรี่แต่ว่าเนื่องจากช่วงนี้ช่วงโควิดนะครับเขาก็เลยรู้ป่ะ LINE Buffet ทั้งหมดลงมาอีกที่ห้องอาหารที่ชั้น 1 แทนนะครับห้องนี้เขาเรียกว่าห้อง The Front room นะครับเดิมทีจะเป็นร้านอาหารสไตล์นอร์ดิกตอนนี้เขาก็เปลี่ยนเป็นห้องทานอาหารอยากจะบอกว่าหลังจากที่เราจะเป็นเวลาอยู่ที่นี่ 1 วันนะครับทำให้เรารู้ว่าประสบการณ์การมาพักที่ออสเตรเลียประสบการณ์ที่พิเศษมากนอกจากโรงแรมจะสวยแล้วService ก็ดีอาหารอร่อยแล้วที่สำคัญคือพอมันเป็นโรงแรมระดับสูงสุดนิวตันและเนี่ย service Level ต่างๆมันจะยกไปอีกระดับหนึ่งผมเปิดประตูลงจากรถมานะฮะพนักงานวารีเทพพูดชื่อผมถูกแล้วระหว่างที่เราพักพนักงานทุกคนก็คือยิ้มแย้มต้อนรับขายเอาตลอดทำให้เหมือนกับเวลาเรามาอยู่ที่นี่เรารู้สึกว่าเราเป็นคนพิเศษกินได้เลยโรงแรมต้องสวยมากดีไซน์อะไรต่างๆดีไซเนอร์ระดับโลกมาออกแบบเดินไปไหนก็ถ่ายรูปสวยอันนี้บอกเลยแล้วสำหรับพรุ่งนี้ใครที่อยากจะมาพักผ่อนที่วอลดอร์ฟทุเรียนไหมครับพรุ่งนี้เขามีผัวโปรโมชั่นแพ็คเกจสามารถซื้อได้ซึ่งราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 9,000 บาทสำหรับห้องดีลักซ์นะครับแล้วก็ถ้าเกิดเป็นห้อง Corner suiteราคา 1,300 บาทนะครับซึ่งถ้าแขกไม่เยอะเขาจะมอบสิทธิ์ในการอัพเกรดห้องให้เราเป็นห้อง aspen Suitesซึ่งเป็นห้องคืนละประมาณ 2 หมื่นกว่าบาทแล้วนอกจากตัวห้องพักเขายังได้อาหารเช้า 2 ที่ได้เช็คอินตั้งแต่ 9 โมงแล้วเช็คเอาท์ตอน 6 โมงเหมือนกับอยู่เต็มๆ 2 วันได้เครดิตมูลค่า 1000 บาทสำหรับใช้งานที่ร้านอาหารได้เครื่องดื่ม 2 แก้วที่ห้อง The Loftได้ส่วนลด 50% สำหรับสปาแล้วถ้าเกิดเป็นแขกที่เข้าพักที่ห้องสวีทจะได้สปาฟรี60 นาที 2 คนด้วยนะครับเป็นแพ็คเกจนี้คุ้มมากราคาเน็ตแล้วโดยที่ไม่ต้องมีบวกเดี๋ยวผมจะใส่รายละเอียดไว้วีดีโอนี้แล้วกันนะครับเผื่อใครที่อยากจะมาพักที่ valgus บ้างซึ่งผมคุยกับ PR ของโรงแรมเนี่ยเขาบอกว่าอันนี้คือแพ็คเกจที่คุ้มที่สุดเท่าที่เขาเคยทำงานมาอยู่ที่นี่นะครับก็เป็นช่วงดีที่แบบว่าจะมาพักที่นี่กันก็จบแล้วนะครับสำหรับรีวิวโรงแรม waldorf astoria Bangkok นะครับในครั้งต่อไปนี้จะพาไปพักโรงแรมไหนอีกต้องโทรติดตามนะวันนี้ขอลาไปก่อนTopชุด