Rosewood Bangkok คือโรงแรมหรูหราในเขตพระนครของกรุงเทพมหานคร ที่เปิดให้บริการในปี ค.ศ. 2019 โดยออกแบบโดยสถาปัตยกรรมเอเชียที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเน้นความสวยงามและความหรูหราในทุกๆ ตารางนิ้วของห้องพัก อย่างไรก็ตาม ราคาห้องพักใน Rosewood Bangkok ก็อยู่ในระดับที่สูงมาก โดยมีราคาคืนละ 300,000 บาทสำหรับห้องพักประเภท Penthouse ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 300 ตารางเมตร ในบทความนี้เราจะพูดถึงรายละเอียดของโรงแรม Rosewood Bangkok รวมถึงห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมให้บริการให้แก่ลูกค้า พร้อมทั้งวิเคราะห์ว่า การเสียเงินกว่า 300,000 บาทสำหรับห้องพักคุ้มค่าหรือไม่
โรงแรม Rosewood Bangkok
ตำแหน่งที่ตั้ง
โรงแรม Rosewood Bangkok ตั้งอยู่บนถนนพระราม 1 ในย่านธุระกิจและการพักผ่อนของกรุงเทพมหานคร โดยมีตัวโรงแรมตั้งอยู่บนห้องสูงสุดของอาคาร Magnolias Ratchadamri Boulevard ที่เป็นอาคารที่สูงที่สุดในกรุงเทพมหานคร และมองเห็นวิวที่สวยงามของเมือง
ห้องพัก
Rosewood Bangkok มีห้องพักทั้งหมด 159 ห้อง แ
ห้อง Deluxe
ห้องพักประเภท Deluxe ของโรงแรม Rosewood Bangkok มีขนาดประมาณ 40 ตารางเมตร โดยมีเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งที่ดีเยี่ยม มีห้องน้ำส่วนตัวที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัว และมีระเบียงส่วนตัวที่มองเห็นวิวที่สวยงามของกรุงเทพมหานคร
ห้องพักประเภท Rosewood
ห้องพักประเภท Rosewood ของโรงแรม Rosewood Bangkok มีขนาดประมาณ 62 ตารางเมตร โดยมีเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งที่ได้รับการออกแบบอย่างดีเยี่ยม มีห้องน้ำส่วนตัวที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัว และมีระเบียงส่วนตัวที่มองเห็นวิวที่สวยงามของกรุงเทพมหานคร
ห้องพักประเภท Rosewood Bangkok Suite
ห้องพักประเภท Rosewood Bangkok Suite ของโรงแรม Rosewood Bangkok มีขนาดประมาณ 90-110 ตารางเมตร โดยมีเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งที่ได้รับการออกแบบอย่างดีเยี่ยม มีห้องน้ำส่วนตัวที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัว และมีระเบียงส่วนตัวที่มองเห็นวิวที่สวยงามของกรุงเทพมหานคร
ห้องพักประเภท Two-Bedroom Rosewood Bangkok Suite
ห้องพักประเภท Two-Bedroom Rosewood Bangkok Suite ของโรงแรม Rosewood Bangkok มีขนาดประมาณ 155-190 ตารางเมตร มีห้องนอนสองห้องแยกกัน มีเฟอร์
นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งที่ได้รับการออกแบบอย่างดีเยี่ยม มีห้องน้ำส่วนตัวที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัว และมีระเบียงส่วนตัวที่มองเห็นวิวที่สวยงามของกรุงเทพมหานคร
การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวก
โรงแรม Rosewood Bangkok มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายสำหรับแขกที่พักอยู่ รวมถึงร้านอาหารที่มีคุณภาพและโดดเด่น ฟิตเนส สปา และสระว่ายน้ำกลางแจ้ง นอกจากนี้ โรงแรมยังมีบริการรถรับ-ส่ง และบริการที่จะช่วยท่านวางแผนการท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร
การวิเคราะห์ว่าห้องพักคุ้มค่าหรือไม่
การเสียเงินกว่า 300,000 บาทสำหรับห้องพักคงทำให้ผู้ที่สนใจต้องการทราบว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ การที่ราคาของห้องพักของ Rosewood Bangkok สูงมากก็เนื่องจากมีความหรูหราและมีคุณภาพในระดับสูงที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ห้องพักของ Rosewood Bangkok ยังได้รับการแต่งหรูหราด้วยเครื่องเรือนและเครื่องมือช่างมืออาชีพ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันที่สุด รวมถึงการบริการที่มีคุณภาพและพนักงานที่มีประสบการณ์ในการบริการลูกค้าที่ดี ดังนั้น หากท่านเป็นคนท
ี่ชื่นชอบการพักผ่อนในโรงแรมหรูหรา และยินดีเสียเงินในการพักผ่อนอย่างสบายใจ แนะนำให้เลือกพักที่ Rosewood Bangkok เพราะมีคุณภาพและบริการที่ดี รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
คำถามที่พบบ่อย
ราคาห้องพักของ Rosewood Bangkok เป็นอย่างไร?
ตอบ: ราคาห้องพักของ Rosewood Bangkok ขึ้นอยู่กับประเภทห้องพัก โดยราคาของห้องพักประเภท Penthouse คือ 300,000 บาทต่อคืน
สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีในโรงแรม Rosewood Bangkok มีอะไรบ้าง?
ตอบ: โรงแรม Rosewood Bangkok มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายสำหรับแขกที่พักอยู่ รวมถึงร้านอาหารที่มีคุณภาพและโดดเด่น ฟิตเนส สปา และสระว่ายน้ำกลางแจ้ง นอกจากนี้ โรงแรมยังมีบริการรถรับ-ส่ง และบริการที่จะช่วยท่านวางแผนการท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร
การเสียเงินกว่า 300,000 บาทสำหรับห้องพักคุ้มค่าหรือไม่?
ตอบ: การเสียเงินกว่า 300,000 บาทสำหรับห้องพักของ Rosewood Bangkok เป็นราคาที่สูงมาก แต่เนื่องจากห้องพักของ Rosewood Bangkok มีคุณภาพและบริการที่ดี รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ดังนั้น หากท่านชื่นชอบการพักผ่อนในโรงแรมหรูหรา และยินดีเสียเงินในการพักผ่อนอย่างสบายใจ แนะนำให้เลือกพักที่ Rosewood Bangkok เพราะมีคุณภาพและบริการที่ดี รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
สามารถนำเด็กเข้าพักได้หรือไม่?
ตอบ: ในการพักที่ Rosewood Bangkok สามารถนำเด็กเข้าพักได้ แต่อาจมีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับเด็กตามอายุ
มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ โรงแรม Rosewood Bangkok หรือไม่?
ตอบ: โรงแรม Rosewood Bangkok ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีและสะดวกสบายในการเดินทาง สามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในกรุงเทพมหานครได้โดยง่าย
สรุป
Rosewood Bangkok เป็นโรงแรมหรูหราที่มีคุณภาพและบริการที่ดี มีห้องพักที่ได้รับการออกแบบอย่างดีเยี่ยม รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ที่สามารถเดินทางได้โดยง่าย ถึงราคาของห้องพักของ Rosewood Bangkok จะสูงมากกว่าโรงแรมอื่นๆ แต่คุณภาพและบริการที่ได้รับนั้นเหมือนกับการลงทุนที่สูงในการพักผ่อนในโรงแรมหรูหราและสวยงาม
สวยแพงทุกตารางนิ้ว! Rosewood Bangkok กับห้องพักคืนละ 300,000!? [VIDEO]
ที่นี่คือโรงแรม “Rosewood Bangkok” โรงแรมสุดหรูใจกลางย่านเพลินจิตที่มีดีไซน์การตกแต่งโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ที่นี่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างมากและตัวโรงแรมก็เติบโตเร็วเอามากๆถึงขนาดที่จะเปิดเพิ่มอีก 20 กว่าแห่งภายใน 2-3 ปีกันเลยทีเดียว
โดยวันนี้เราจะพาไปดูห้องพักที่แพงที่สุดที่มีค่าห้องสูงถึงคืนละ 300,000 บาท!! และพาทัวร์รอบโรงแรมให้เห็นถึงดีไซน์ที่หรูหรา จะเป็นยังไง ไปชมกัน!
เนื้อหาของวิดีโอ สวยแพงทุกตารางนิ้ว! Rosewood Bangkok กับห้องพักคืนละ 300,000!?
โรงแรมแห่งนี้คือโรสวูดบางกอกนะครับเป็นโรงแรมสุดหรูที่ตั้งอยู่ในย่านเพลินจิตนะฮะใจกลางเมืองเมืองกรุงเทพฯมหานครแล้วก็ห้องพักที่เราอยู่ตอนนี้คือห้องพักที่ดีที่สุดของโรงแรมนะครับคือห้องบรรณาการมีราคาต่อคืนสูงถึงคืนละ 300 บาทเลยนะครับทุกคนเมื่อเทียบกับเครือโรงแรมต่างๆทั่วโลกโรสวูดจัดว่าเป็นเครือโรงแรมน้องใหม่นะครับคือจริงๆเนี่ยโรงแรมโรสวูดแห่งแรกเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1979 แล้วนะครับที่อเมริกาปัจจุบันเนี่ยโรงแรมโรสวูดได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่เยอะมากๆนะครับเพราะว่ามันเป็นโรงแรมที่เขาเน้นเรื่องของการตกแต่งที่มันสวยงามมากๆแล้วถ้าเกิดเราไปรู้สูตรแต่ละที่ทั่วโลกนะมันจะไม่ซ้ำกันเลยทุกคนแล้วนอกจากนั้นเนี่ยโรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมที่เติบโตเร็วมากๆด้วยนะเขามีแผนว่าในอีก 4-5 ปีข้างหน้าเนี่ยเขาจะเปิดเพิ่มอีกถึง 20 โลเคชั่นเลยซึ่งถือว่าเร็วมากดังนั้นในวันนี้ผมจะพามาดูรายละเอียดของโรงแรมโรสวูดแบงคอกแข่งนี้รวมถึงพามาดูห้องพักที่พิเศษที่สุดของที่นี่ด้วยจะเป็นยังไงไปชมกันที่โรงแรมโรสวูดนะครับเขาจะมีการสร้าง sense of arrival ให้กับแขกที่เพิ่งจะดูเดินทางมาถึงก็เป็นการสร้าง First impression ที่ดีแล้วก็เป็นการบอกว่าคุณเดินทางมาถึงโรงแรมโรสวูดบางกอกแห่งนี้แล้วงั้นเขาจะมีการใส่ใจเรื่องของการตกแต่งบริเวณโถงทางเข้าตรงนี้เยอะนิดนึงจุดที่ผมอยู่ตรงนี้จะเป็นจุดกับออฟนะครับซึ่งอยู่ติดกับตรงบริเวณถนนด้านหน้าเลยนะครับรถจะวนเข้ามาเพื่อจอดรับส่งกันตรงนี้ซึ่งตรงนี้เขาจะทำเป็นเพดานสูงด้านบนเนี่ยมีการตกแต่งฝ้าไว้อย่างสวยงามนะคะใส่โคมไฟเอาไว้ส่วนผนังด้านข้างตรงนี้จะเป็นผนังน้ำตกยาวตลอดแนวเลยนะครับซึ่งจะทำหน้าที่ 2 อย่างอย่างที่ 1 คือเป็นตัวบังสายตาไม่ให้คนข้างนอกมองเข้ามาข้างในแล้วให้แขกมี privacy มากขึ้นอย่างที่สองคือมันจะทำหน้าที่สร้างเสียงน้ำนะครับเพื่อลดทอนเสียงรบกวนจากภายนอกที่เข้ามาถึงห้องส่วนด้านในทางเนี้ยมันจะเป็นพื้นที่ที่แบบเป็นโคโยตี้สำหรับต้อนรับนิดหน่อยนะครับตัวล็อบบี้จริงๆจะอยู่ที่บริเวณชั้น 7เดี๋ยวเรากดลิฟท์ขึ้นไปดูข้างบนกันพื้นที่ส่วนของล็อบบี้นะครับจะเป็นจุดที่แขกเอามาใช้ Check In Checkเอ้าแล้วก็พบเจอพนักงานต้อนรับตรงบริเวณนี้นะครับจริงๆที่มันไม่ได้มีอะไรมากหรอกทุกคนไม่ได้ใหญ่มากนะแต่ว่าสิ่งที่ผมอยากจะให้สังเกตนะครับและสังเกตนับจากตรงนี้ไปจนจบคลิปเลยนะครับคือการตกแต่งภายในของที่นี่นะครับที่โรงแรมโรสวู้ดแบงคอกอย่างนี้เขามี interior Designer มากถึง 3ถามเจ้าเลยนะครับที่ใช้ดูแลการตกแต่งภายในทั้งหมดยังบริเวณ Public area ต่างๆเนี่ยดีไซเนอร์ที่รับผิดชอบก็จะเป็นทีมของของคุณสิเรียมดีไซเนอร์ชาวไต้หวันที่เขาจะมีผลงานอยู่ในโรงแรมต่างๆทั่วโลกเลยภายในล็อบบี้อย่างเดียวเนี่ยผมอยากจะให้ดูการใช้วัสดุรองเท้านะครับซึ่งมีการเลือกใช้วัสดุผสมกันหลายอย่างมากอย่างผนังอย่างเดียวเนี่ยเราจะเห็นวัสดุไม่ต่ำกว่า 10 แบบร่วมกันซึ่งการใช้วัสดุเยอะแบบนี้มันเป็นต้นทุนที่สูงมากนะทุกคนได้อย่างที่ 2 ที่อยากจะให้ดูด้วยคือการจัดแสงนะครับ writing ต่างๆยางอันที่เป็นพระเอกเลยก็คือตัวแชนเดอเลียร์ที่อยู่บนหัวผมวันนี้นะครับเขาจะทำเป็นรูปภาพซึ่งตัวชั้นเดียวจริงๆมันเป็นแท่งอะคริลิคธรรมดาไม่ได้มีอะไรนะตัวหลอดไฟเนี่ยมันจะฟังอยู่ที่เพดานขึ้นป 2 โรงพยาบาลพุทธกระทบกับตัวแผ่นอะคริลิคของพัดเนี่ยมันก็จะกระจายออกไปเกิดเป็นเอฟเฟคแผนที่มันสวยงามแปลกตาไม่เคยเห็นที่อื่นจุดหนึ่งที่อยากจะให้สังเกตคือบริเวณโต๊ะรีเซฟชั่นนะครับที่เขาจะมีโคมไฟอันหนึ่งที่เขาทำเป็นเหมือนกับผ้าม่านที่มันย้อยลงมารับกับตัวแจกันดอกไม้แล้วก็เคาน์เตอร์ที่มีผนังตกแต่งเป็นลายฉลุไทยนะครับเพิ่งดูแล้วโดยรวมออกมาสวยงามมากๆส่วนถัดมาอีกด้านนึงของล็อบบี้นะครับมันจะเป็นห้องอาหารละครนะครับซึ่งจะเป็น European brasserieห้องอาหารห้องนี้จะเป็นห้องอาหารหลักของตัวโรงแรมนะที่เขาจะใช้เซิร์ฟเช้าด้วยซึ่งการตกแต่งของห้องนี้สวยงามมากเลยทุกคนมันจะออกเป็นโทนสีขาวสิ่งที่ผมอยากให้สังเกตคือบริเวณฝ้าเพดานอ่านนะครับที่เขาจะใช้เป็นแบบลวดลายแบบทรงคลาสสิคคลาสสิคผสมกับพวกเฟอร์นิเจอร์ที่มันออกโมเดิร์นเขาบอกลวดลายบนเพดานเขาเอา inspyrationมาจากลวดลายบนกล่องเพลงในปี 1800 กว่ายุควิคตอเรียมันจะมีความหวานมากๆเลยทุกคนแล้วก็สาวๆหลายคนน่าจะชอบมานั่งห้องนี้จิตอับดุลทีด้วยนะครับProximity ของตัวโรงแรมนะครับเขาจะตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 9 นะฮะซึ่งที่ชั้นนี้จะประกอบไปด้วยตัวสระว่ายน้ำห้องฟิตเนสแล้วก็ตัวร้านอาหาร gno นะครับผู้สาวว่ายน้ำเนี่ยมันจะเป็นสระระบบเกลือความยาวประมาณ 20 เมตรนะทุกคนมันจะมีฟีเจอร์พิเศษคือเขาจะมีน้ำตก indoor นะครับตัวน้ำตกเนี่ยจะเป็นน้ำตกที่ตกจากชั้น 19ลงมาที่ชั้น 9 นะทุกคนความสูงเท่ากับตึก 10 ชั้นนะครับซึ่งใหญ่มากๆสูงมากๆเป็นฟีเจอร์หลักของตัวอาคารเลยแต่ว่าตอนนี้ในช่วงโควิดเข้าใจยังปิดอยู่นะครับแล้วก็ด้านข้างในจะมีห้องฟิตเนสสำหรับออกกำลังกายเนี่ยจะใช้เครื่องของเทคโนโลยีนะครับซึ่งจะเป็น Standard ของโรสวูดเลยแล้วก็ฝั่งตรงข้ามจะมีห้องอาหาร gmo นะครับซึ่ง Piano เนี่ยมาจาก Green and organicนะครับคือเป็นร้านอาหารสำหรับสายสุขภาพนะฮะเขาก็จะเป็นครูบาไปในตัวด้วยเสิร์ฟอาหารสำหรับคนที่มาใช้งานบริเวณสระน้ำนะครับผมทักมานะครับตอนนี้เราจะอยู่ที่ชั้น 6 นะครับซึ่งเป็นชั้นสปาของตัวโรงแรมนะฮะที่โรงแรมโรสวูดเขาจะมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองมีชื่อว่าเต็นท์นะครับโดยแต่ละที่ก็จะมีการตกแต่งที่มันไม่เหมือนกันอย่างที่โรสวูดแบงคอกเนี่ยเขาจะมีConceptเทปนะครับหรือว่าถ้ำนั่นเองจะสังเกตได้จากการตกแต่งผนังด้านข้างที่เขาทำเหมือนกับเป็นผนังเหมือนกับเป็นโรคที่เรากลับเข้ามาฟื้นฟูตัวเองแล้วก็ออกไปใหม่แล้วก็ตัวสกินแคร์ที่เขาใช้ในสปาของเขานะจะเป็นแบรนด์Epidermis นะครับก็ครีมกระปุกละประมาณหมื่นกว่าบาททำหน้าให้เราแล้วก็ภายในห้องทรีทเม้นท์ของเขาเนี่ยทุกคนเขาจะมีการใส่ใจเรื่องของอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องสปาของยังปวดอีกเนี่ยนะเขาบอกว่าเตียงเนี่ยหมอนของเขาจะเป็นหมอน Memory Foam นะครับที่นอนแล้วหน้าไม่ยับนะแล้วก็เตรียมของเขาเนี่ยเขาจะใช้เตียงยี่ห้อ Living Earth นะครับเป็นจริงไฮโดรลิคซึ่งมีความพิเศษตรงที่ว่ามันเงียบมากครับคือปรับขึ้นมาอะไรเงี้ยมันจะไม่รบกวนคนที่นอนอยู่ข้างๆเราซึ่งที่มันเป็น Detail ที่มันแบบยิบย่อยมากเลยนะเขายอมลงทุนใส่ใจกับกับสปาของเขาต่อมาขึ้นมาที่ชั้น 19 และบุคคลชั้นนี้จะเป็นชั้นของห้องอาหารจีนของโรงแรมนะครับก็คือร้านหนังเปื่อยนั่นเองซึ่งเวลาเราเดินออกจากลิฟต์มาเดี๋ยวทุกคนเราจะมาพบกับแลนด์มาร์คของที่นี่ก่อนนะครับนั่นก็คือตัวมูลเกรดอันนี้ตรงนี้จะเป็นจุดที่แบบคนมาถ่ายรูปเยอะมากนะครับทุกคนจะเห็นตัวอินสตอลเลชั่นอาร์ตที่อยู่ด้านหลังกระจกอันนี้ที่เขาจะทำเป็นดวงไฟระยิบระยับอันนี้นะครับอันนี้เขาได้รับ inspiration มาจากเรื่องหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้านะครับที่มันเป็นนิยายพื้นบ้านของจีนซึ่งมันเป็นเรื่องราวความรักต้องห้ามเกี่ยวกับคนธรรมดากับนางฟ้านะครับปีนึงอ่ะเขาจะเจอกันได้แค่ปีละครั้งนะครับแล้วการที่เขาจะเจอกันเขาจะต้องข้ามสะพานนกกระเรียนพันตัวไปพบกันที่ทางช้างเผือกซึ่งมันก็เลยทำออกมาเป็นอินสตอลเลชั่นอาร์ตแบบนี้นะถ้าเราสังเกตเข้าไปข้างในเราจะเห็นนกกระเรียนอยู่เต็มไปหมดเลยนะครับมีเป็นร้อยตัวเลยนะแล้วก็สะท้อนกระจกด้านข้างตรงนี้สวยงามมากๆมาปุ๊บต้องถ่ายรูปซึ่งทุกคนรอผมแป๊บนึงคำว่าหนามเตยนะทุกคนนะเนี่ยมันแปลว่าใต้มันแปลว่าเหนือร้านอาหารร้านนี้มันเป็นร้านอาหารจีนที่เอาอาหารจีนจาก 2 สัญชาติมารวมกันอยู่ในร้านเดียวเวลาเราเดินเข้ามาเนี่ยเราจะพบกับเคาน์เตอร์ครัว 2 ฝั่งนะครับฝั่งนึงเนี่ยมันจะเรียกให้เซ็นปักกิ่งซึ่งเราจะเห็นเป็ดปักกิ่งแขวนเต็มเลยอีกด้านนึงเนี่ยมันจะเล่นฝั่งใต้ซึ่งต่างๆมันจะอยู่ใกล้กับโซนทะเลใช่ไหมทุกคนอันนี้เขาจะมีพวกซีฟู้ดมาวางตรงเวลาเรามาร้านนี้แล้วก็จะได้กินอาหารจากทั้ง 2 ภูมิภาคเลยนอกจากตัวอาหารนะครับทุกคนอีกอย่างหนึ่งที่ผมอยากจะให้ทุกคนโฟกัสด้วยนะครับคือการตกแต่งภายในร้านคือตัวร้านไหนเปิดเนี่ยเขาจะใช้สไตล์กันแบ่งเป็น adeccoซึ่งเป็นสไตล์ที่ฮิตมากในช่วงประมาณปีพ.ศ1,000 นิดๆก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1มันจะมีความเร็วโทรหน่อยทุกคนแล้วทุกคนจะเห็นการใช้สีสันที่มันแบบสดนิดนึงเช่นเก้าอี้สีเหลืองผนังสีเขียวอะไรคอนเซ็ปอย่างนึงของร้านนี้คือเขาต้องการให้เรากินอาหารอาหารจีนแต่เป็นจีนสไตล์จีนแท้เลยนะแต่ว่าอยู่ในบรรยากาศที่มันคอนทราสกันแบบที่มันมีความเป็นยุโรปอะไรซึ่งความคอนเสิร์ตกันแบบนี้มันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งสิ่งที่ผมว่าเขาทำออกมาได้พื้นชั้นที่จะเป็นชั้น 30 นะบุคคลชนิดที่เป็นสกายบาร์ของบ้านแห่งนี้จะเรียกว่าเลนนอนนะครับที่เนี่ยเขาจะใช้การตกแต่งสไตล์แบบSpeak Easy ซึ่งคำว่า speak Easy ทุกคนมันมาจากคำว่าSpeak Easy Shopเหล้ามันผิดกฎหมายในการขายในช่วงประมาณปี 19203เวลาพูดถึงร้านเหล้าในสมัยนั้นน่ะเขาเลยใช้คำว่าSpeak Easy คือพูดกันค่อยๆเบาๆรู้กันเองว่ามันเป็นร้านขายแต่ว่าข้างบนนี้เขาทำให้มันเป็นมีความหน่อยแล้วเขาจัดเป็นล้านแผ่นซึ่งที่นี่จะมี Collectionเสียงมากกว่า 60ท่านอยู่ที่นี่คนที่มาที่หน้าสามารถเดินมาเลือกแผ่นเสียงนะครับแล้วเอาไปเปิดให้ดีเจเปิดให้ฟังได้ซึ่งจะอยู่อีกห้องนึงอีกห้องนึงเนี่ยทุกคนฝั่งนี้เขาจะเป็นเคาน์เตอร์บาร์ครับพี่เขาจะมีการเสิร์ฟเครื่องดื่มกันอยู่ตรงนี้แล้วก็เราจะเห็นว่ามาเขาจะมีผนังกระจกที่เขาทำเป็นแบบเสียงนะครับที่มันสามารถมองไปเห็นวิวข้างนอกได้แล้วผมอยากจะให้ดูการตกแต่งของที่นี่นิดนึงคือเขาจะมีลำโพงที่ฝังอยู่ในผนังแบบนี้ทุกคนซึ่งเขาทำเป็นสไตล์แบบเรโทรเลยนะครับที่สมัยก่อนเขาชอบเอาลำโพงฝังไว้แบบนี้นะเครื่องเสียงของที่นี่เขาจะใช้แอมป์ของแมคอินทอชนะครับใช้เทิร์นเทเบิ้ลของนอตติงแฮมแล้วก็ใช้ลำโพงของ251ซึ่งเขาบอกว่า 3 ยี่ห้อนี้เป็น holy trinityการเล่นแผ่นเสียงต่อมานะคะก็จะขอพาไปดูห้องพักต่างๆหนังไทยในโรงแรมแห่งวันนี้กันบ้างนะครับโรงแรมเนี่ยมีห้องพักเยอะแยะมากมายหลายท้ายเลยนะทุกคนแต่เขาจะแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้ 3 กลุ่มกลุ่มแรกก็คือ Roomกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่ 3ถามคือ Houseรูเสียบน่าจะเป็นห้องพัก sizing เริ่มต้นอย่างห้องดีลักซ์จะอยู่ที่ประมาณซัก 4012 ตารางเมตรราคาอยู่ที่ประมาณ8,000 บาทห้องพักพรุ่งนี้ฟังก์ชันเหมือนกันอาจจะไม่ได้มีอะไรมากคล้ายๆกับห้องพักอื่นๆขยับขึ้นมานะคะจะเป็นห้องแบบสวีทห้องสวีทก็จะขนาดใหญ่ขึ้นมานะครับการตกแต่งเมรุจัดเต็มมากขึ้นมีการแบ่งฟังก์ชันที่มันเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้นนะครับแล้วก็ราคาก็สูงขึ้นขึ้นด้วยอยู่เริ่มต้นเป็นคืนละประมาณสักหมื่นกว่าบาทเกือบ 20,000 แล้วนะแบบสุดท้ายเนี่ยที่เรียกว่า Houseเฮ้าส์จะเป็นห้องพักที่แต่ละห้องมีอยู่เพียงห้องเดี่ยวในโรงแรมการตกแต่งในห้องนี้ก็จะจัดเต็มสุดๆขนาดจะใหญ่ขึ้นมานะครับแล้วก็ราคาก็จะสูงสุดด้วยนะคะอยู่ที่เริ่มต้นคือประมาณ 10แสนห้าหมื่นส่วนห้องพักที่เราอยู่ตอนนี้คือบรรณาการ House นะครับใหญ่ที่สุดหรูที่สุดแพงที่สุดคือละส่วนแรกสุดที่อยากจะจะพามาดูก่อนนะครับคือพัดของ2 Living areaตัว Living เนี่ยจะแบ่งเป็น 3 ฟังก์ชันเยอะๆนะทุกคนคือส่วนของของโซฟาตรงกลางห้องแล้วก็ทักมาจะเป็นของเคาน์เตอร์บาร์แล้วก็ไปอีกห้องนึงเนี่ยห้องรับประทานอาหารครัวรวมอยู่อย่างแรกที่อยากจะให้ดูก่อนเลยคือพื้นปูพื้นเนี่ยเขาจะใช้เป็นพื้นไม้สีเข้มสารกันเป็นรายบอลLINE Cambridge นะครับแล้วก็มันจะรับกลับที่เขาทำเป็น Pattern สี่เหลี่ยมคล้ายๆกันซึ่งดูแล้วมันจะทิ้งกันนิดนึงนะทุกคนแล้วก็ตัวผนังเนี่ยเขาใช้เป็นผนังหินอ่อนขาวนะครับจริงๆนะไม่ใช่เรื่องแปลกมากนะครับแต่ว่าสิ่งที่แปลกคือพวกคิ้วผนังคิ้วบัวนะครับก็ใช้เป็นวัสดุหินอ่อนเหมือนกันนะครับซึ่งไอ้ต้นทุนการทำพวกคิ้วบัวเป็นหินอ่อนแบบนี้มันเป็นต้นทุนที่สูงมากเลยแล้วก็พวกเฟอร์นิเจอร์เนี่ยในเฟอร์นิเจอร์ 1 ชิ้นเนี่ยเขาจะมีการใช้วัสดุหลายๆอย่างรวมอย่างเช่นโต๊ะกลางตัวนี้Top มันจะเป็นด้านข้างมันจะเป็นหวายมันจะมาซิงค์กับตัวเคาน์เตอร์บาร์นี้เคาน์เตอร์บาร์ท็อปก็เป็นหินเหมือนกันแต่ว่าข้างล่างเนี่ยอันนี้ไม่ใช่หินนะอันนี้จะเป็นแล้วขาของเคาน์เตอร์บาร์มันจะเป็นโลหะซึ่งมันจะมาซิงค์กับอันนี้ครับเก้าอี้ที่เป็นที่เป็นขาโลหะแบบโครเมียมเหมือนกันเวลาเราดูรวมๆแต่ละชิ้นเนี่ยมันจะทำให้รู้สึกว่าห้องนี้สวยแพงมากส่วนทักเข้ามาด้านในนะเราจะเจอกันกลับห้อง privateDining Roomซึ่งจะมีโต๊ะรับประทานอาหาร10 ที่นั่งเตรียมไว้ให้คนที่เป็นแขกที่เข้าพักห้องนี้ส่วนใหญ่บางทีเขาอาจจะไม่ได้อยากลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารเราสามารถให้เชฟขึ้นมาทำอาหารที่บนห้องของเราได้ซึ่งในห้องเนี่ยเขาจะมีที่เขาเตรียมไว้อาหารภายในห้องได้เลยพัดมาตรงกลางห้องเนี่ยห้องนี้จะเป็นห้องที่มีระเบียงส่วนตัวด้วยนะคะครับเพิ่งพิเศษตรงที่เขาจะมีสระว่ายน้ำเป็นอ่างจากุซซี่ส่วนตัวภายในห้องด้วยนะแล้วก็ขนาดของระเบียงก็ค่อนข้างใหญ่แล้วตรงนี้เราสามารถนอนแช่น้ำนะคะแล้วก็รับวิวได้ข้างนอกซึ่งตรงนี้เราจะมองเห็นวิวของถนนเพลินจิตแล้วก็ Cityเขตของบริเวณกรุงเทพชั้นในที่สุดสุดท้ายด้านในจะเป็นโซนห้องนอนนะทุกคนแต่พอเราเปิดประตูมาปุ๊บเรายังไม่เจอกับห้องนอนทันทีนะครับเราจะเจอ Folder เล็กๆตรงนี้ก่อนด้านข้างมีตู้มินิบาร์นะครับห้องนอนสลบอยู่ด้านในเพื่อให้มันเกิดความ privacyฝั่งนี้จะเป็นห้องแต่งตัวด้านหลังอยากจะสู้ตรงนี้ก่อนตู้มินิบาร์เนี่ยคือผมอยากจะบอกว่าถ้าเกิดทุกคนมีโอกาสอยากให้มาสังเกตพวกเครื่องแก้วถ้วยชามภายในห้องซึ่งเขาแบบใส่ใจมากอย่างเนี้ยจะเป็นของยี่ห้อนารูมินะครับเขาจะปั๊มโลโก้ของโรสวูดแบงคอกไว้ตรงนี้ด้วยใส่ใจรายละเอียดมากถัดมาในส่วนของห้องนอนในทุกคนพื้นที่ห้องนอนเค้าก็ให้ความสำคัญเยอะเหมือนนะครับคือเดินเข้ามามันไม่ได้เจอเฉพาะส่วนของแล้วยังเจอพื้นที่ที่เป็นแบบ Living area เล็กๆอยู่ภายในห้องด้วยแล้วก็ภายในห้องนอนเขาจะใส่กระจกขนาดใหญ่สองด้านนะครับเพื่อให้เราสามารถมองไปแล้วมันจะมี Detail อย่างนึงที่ผมอยากจะให้สังเกตคือตัวตึกเนี่ยมันจะเป็นตึกที่มีหน้าตาเป็นตึกทุกคนเห็นอยู่เนี่ยอันนี้คือเสาโครงสร้างถ้าเกิดเป็นที่อื่นๆเขาอาจจะเลือกที่จะปกปิดเสาโครงสร้างอันนี้ไม่ให้เราเห็นนะครับแต่ที่นี่เขาใช้เสาโครงสร้างเสียงเสียงให้เป็นประโยชน์แล้วเอามาช่วยตกแต่งห้องให้มันสวยขึ้นแล้วมันมีเอกลักษณ์มากขึ้นคือพอเราเห็นปุ๊บเราจะจำได้เลยว่าเนี่ยคือ roseและมีอีกอย่างหนึ่งที่ผมอยากจะให้ทุกคนสังเกตไปพร้อมกันคือกันไล่สีเฟอร์นิเจอร์นะครับเฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้เขาจะแต่งด้วยโทนสีสีเขียวกับสีฟ้าแล้วก็ไล่มาที่โซฟาตัวนี้จะเป็นสีน้ำเงินที่เข้มขึ้นแล้วก็มาที่ผนังเป็นสีเขียวหัวเตียงเป็นสีแต่ละชิ้นเนี่ยทุกคนจริงๆแล้วมันเป็นคนละสีกันหมดเลยซึ่งดูเหมือนจะไม่เข้ากันแต่เข้ากันสุดท้ายนะลูกคนจะพาเข้ามาดูในส่วนของห้องน้ำนะครับซึ่งห้องน้ำเนี่ยโทนสีหลักๆที่เขาใช้จะเป็นทูโทนคือเป็น black and whiteนะครับแล้วก็ตะกรุดหินอ่อนครัวห้องน้ำเลยนะฮะตัวที่เป็นพระเอกของห้องนี้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือตรงนี้นะครับซึ่งจะเป็นแบบ Chip and herตัวอ่างล้างมือที่เขาใช้กับพวกฮาร์ดแวร์ต่างๆที่อยู่ในห้องน้ำเนี่ยจะเป็นของยี่ห้อ calistaซึ่งอันนี้จะเป็นแบรนด์สุขภัณฑ์หรูจากอเมริกาในประเทศไทยเนี่ยที่ผมไปดูมาเนี่ย2 ที่เท่านั้นที่ใช้คือที่นี่อีกที่หนึ่งคือ 98 wirelessครับผมรีวิวไว้แล้วแล้วส่วนไฮไลท์สำคัญของห้องน้ำห้องนี้คือตัวอ่างอาบน้ำอันนี้นะเองนะทุกคนซึ่งเราสามารถนอนแช่บ่อจากุซซี่ตรงนี้แล้วก็มองเห็นวิวข้างๆได้เพราะว่าด้านข้างเนี่ยเขาทำมาเป็นมีความน่ารักของโรงแรมอย่างหนึ่งคือเขาให้หมอนมาด้วยทุกคนเราสามารถนอนหนุนหมอนพรุ่งนี้ดู Content จากจอทีวีที่อยู่ด้านข้างครับแล้วก็ชมวิวไปด้วยได้Ok ครับทุกคนตอนนี้เราก็เดินดูโรงแรมเสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับอยู่กันจนมืดเลยนะฮะโรสวูดแบงค์คอกนะครับคือโรงแรมนี้ต้องบอกว่าเป็นโรงแรมที่สวยมากเลยนะคือด้วยทำเลมันเป็น City HotelCity Hotel คืออยู่ใจกลางเมืองย่านเพลินจิตฟังก์ชั่นของ City Hotelมันจะคล้ายๆกันมีห้องพักดีๆมีเซอร์วิสดีๆมีสปามีร้านอาหารสวยๆมีบาร์สวยๆนะครับแต่แถวๆเนี้ยมันมีตัวเลือกเยอะมากนะครับแต่สิ่งที่จะทำให้พี่เนี่ยแตกต่างและไม่เหมือนที่อื่นนะครับผมบอกได้เลยมันคือเรื่องของการตกแต่งที่เนี่ยเขาใส่ใจเรื่องของInterior Design ค่อนข้างมากตัวผมเองเนี่ยคิดว่าที่เนี่ยน่าจะเป็นหนึ่งในโรงแรมในกรุงเทพฯที่มีการตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลยแล้วก็ถ้าเกิดใครที่เป็นสายนี้ชอบเรื่อง Design เรื่องอะไรพวกเนี้ยน่าจะอินกับพี่มากๆดังนั้นอยากจะให้มาลองดูนะฮะโรสวูดแบงคอกวันนี้ต้องขอขอบคุณทางโรงแรมนะครับที่ให้ผมและทีมงานเข้ามาพักผ่อนที่นี่แล้วจะเอาเรื่องราว Detail ต่างๆมาเล่าให้ทุกคนฟังตอนหน้าจะพาไปไหนอีกต้องกดติดตามนะครับวันนี้ขอลาไปก่อน